วัวล้อ ขบวนเกวียนขนส่งสินค้าในอดีตเมื่อ 50 ปีก่อน

31 มกราคม 2019, 11:57:20

“วัวล้อ” ขบวนเกวียนขนส่งสินค้าในอดีตเมื่อ 50 ปีก่อน



พาหนะในการขนส่งสินค้าทางบกในอดีตที่สำคัญคือ ช้าง ม้า วัว ควาย ก่อนที่จะถูกรถบรรทุกหรือรถยนต์ เข้ามาแทนที่ในช่วง 50 กว่าปีที่ผ่านมา ในจังหวัดเชียงใหม่นิยมใช้ช้าง และวัว ในการขนส่งสินค้าต่าง ๆ เช่น ไม้ซุง สินค้าอุปโภคบริโภค ของป่า อื่น ๆ นอกจากนั้นแล้วพาหนะที่ใช้ในการขนส่งสินค้าในอดีตยังเป็นส่วนในการสร้างอาชีพให้กับชาวบ้าน และการเสริมสร้างเศรษฐกิจให้กับเมืองเชียงใหม่อีกด้วย
 


วันนี้ “เชียงใหม่นิวส์” จะมาเล่าถึงเรื่องราวของ “วัวล้อ”ซึ่งเป็นพาหนะทางบกที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ มีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเชียงใหม่ก่อนที่รถบรรทุก และรถยนต์จะเข้ามาแทนที่ วัวล้อจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเรื่องราวของ วัวล้อ มีดังต่อไปนี้

“วัวล้อ” คืออะไร?
“วัวล้อ” คือ การใช้วัวเทียมเกวียนบรรทุกสิ่งของไปขายยังที่ต่าง ๆ เป็นพาหนะที่ใช้ทั้งในเมือง และชนบท ซึ่งการใช้วัวล้อเริ่มนำมาใช้เยอะขึ้นในช่วงที่สมัยการค้าทางเรือ และการค้าทางรถไฟ กำลังเจริญเติบโต นอกจากนั้นวัวล้อยังเป็นพาหนะในการขนส่งสินค้าจากชนบทมายังท่าเรือ และสถานีรถไฟ ในช่วงแรก ๆ พ่อค้าคนจีนจะเป็นคนจ้าง วัวล้อ เดินไปทางไปซื้อสินค้าเกษตรในเขตอำเภอชนบท เช่น ข้าว ถั่ว และกระเทียม เป็นต้น แล้วว่าจ้างให้วัวล้อบรรทุกเข้ามาไว้ที่บริเวณท่าเรือหรือสถานีรถไฟ เพื่อพ่อค้าคนจีนจะได้นำสินค้าที่ขนมาส่งต่อไปขายที่กรุงเทพฯ

 

ขบวนเกวียนบนถนนสายเชียงใหม่-หางดง เมื่อ พ.ศ. 2516

วิธีการขนส่งสินค้าโดย “วัวล้อ”
เมื่อได้ผลผลิตชาวนาที่เช่านาจากเจ้าของนาที่อยู่ในเมือง (ทำนาแบบผ่ากึ่ง) จะนำข้าวเปลือกใส่วัวล้อมาส่งให้เจ้าของนาในเมือง เกวียน 1 เล่ม บรรทุกข้าวได้ประมาณ 40-50 ถัง ค่าบรรทุกถังละ 1 บาท ค่าวัวล้อนี้เจ้าของนาจะเป็นผู้จ่าย ใช้เวลาเดินทางขามา 6 ชั่วโมง ขากลับ 4 ชั่วโมง เดินทางออกจากบ้านประมาณเที่ยงคืนมาถึงเชียงใหม่ช่วงเช้ามืด ขากลับก็ซื้อของจากในเมืองกลับไปขายในหมู่บ้านตน

การขนส่งภายในเมือง “วัวล้อ” ทำหน้าที่ขนส่งสินค้าจากท่าเรือ และสถานีรถไฟไปส่งขายยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งกาดในเมือง และชนบท คนจีนที่เปิดร้านขายของอยู่ที่ตลาดประตูเชียงใหม่ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ทำการซื้อ น้ำปลาจากพ่อค้าแถวสันป่าข่อย แล้วจ้างล้อเกวียนมาส่งที่ประตูเชียงใหม่ นอกจากนั้นแล้วสองข้างถนนในเขตเมืองเชียงใหม่มีล้อเกวียนจอดรอรับจ้างขนของอยู่เป็นจำนวนมาก



ขบวนเกวียนรุ่นสุดท้ายบนถนนช้างม่อย ในเมืองเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ. 2510

ปลายยุคการใช้ “วัวล้อ”
ในช่วงปีพ.ศ.2510-2520 เริ่มมีการสร้างถนน และมีการนำรถยนต์กับจักรยานยนต์มาใช้ในการขนส่งสินค้า ทำให้บทบาทของวัวล้อค่อย ๆ ลดลง เพราะการขนส่งโดยรถ เร็วกว่า และรถสามารถบรรทุกของได้มากกว่า ในช่วงนั้นมีคนจีนเริ่มทำกิจการนำรถบบรทุกเข้ามาขาย และนำรถบรรทุกไปวิ่งเป็นรถรับจ้างภายในเมือง และระหว่างเมืองกับเขตอำเภอรอบนอก ชาวบ้านเรียกรถแบบนี้ว่า “รถคอกหมู” ที่เราคุ้นหูกัน และในช่วงเวลานั้นทางราชการห้ามอย่างเด็ดขาดไม่ให้วัวล้อเข้าไปในเขตเทศบาลด้านใน หมายความว่า ห้ามข้ามสะพานเข้าไปทางฝั่งท่าแพ เพราะวัวเวลาขนสินค้าต้องถ่ายมูลลงบนถนนซึ่งทำให้เกิดความสกปรก และเกะกะถนน วัวล้อจึงหายไปจากตัวเมืองเชียงใหม่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา



ขบวนเกวียนกำลังสวนทางกับรถยนต์

ส่วนในหมู่บ้านในชนบท “วัวล้อ” ก็ค่อย ๆ หมดบทบาทลงเช่นกัน เพราะชาวบ้านหันมาใช้ควายเหล็กแทนวัวและควายที่เคยใช้ไถ่นาในอดีต อีกทั้งชาวบ้านยังใช้จักรยานต์ในการเดินทาง และขนส่งมากขึ้น ช่วงปี พ.ศ.2519-2528 มีรถจักรยานยนต์ที่จดทะเบียนในเชียงใหม่เพิ่มจำนวนมากขึ้นกว่าหกหมื่นคัน ซึ่งเป็นประจักษ์พยานที่สำคัญคือ “กาดวัว” ที่เคยเป็นแหล่งซื้อขายวัว แทบจะกลายเป็นกาดซื้อขายจักรยานยนต์มือสองไปเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามในหมู่บ้างบางแห่งก็ยังมีการใช้วัวล้ออยู่ เช่น หมู่บ้านแม่ทา จังหวัดลำพูน เป็นต้น


ขบวนเกวียนขณะขนของไปส่งยังท่าเรือ

โดยสรุปแล้ว “วัวล้อ” เป็นพาหนะที่ใช้ในการขนส่งสินค้าจากเขตอำเภอชนบทมาสู่เขตเมืองเชียงใหม่บริเวณท่าเรือ และสถานีรถไฟ โดยผ่านการว่าจ้างจากพ่อค้าคนจีน นอกจากนั้นวัวล้อ ยังทำหน้าที่ขนส่งสินค้าภายในบริเวณเมืองเชียงใหม่อีกด้วย ต่อมาในช่วงทศวรรษที่ 2510 เริ่มมีการสร้างถนนในตัวเมืองเชียงใหม่ขึ้นทางราชการประกาศห้ามไม่ให้ วัวล้อ วิ่งในเขตด้านในตัวเมืองเชียงใหม่เพราะว่าวัวจะขี้ลงบนถนนทำให้สกปรกและเกะกะ อีกทั้งยังมีการใช้รถยนต์กับรถจักรยานยนต์มาแทน วัวล้อ จึงทำให้ในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ไม่มีวัวล้อตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่ในจังหวัดลำพูนบางหมู่บ้านก็ยังคงเหลือ วัวล้อ อยู่ แต่ในปัจจุบันการขนส่งมีความสะดวกสบายขึ้นกว่าอดีตเยอะทำให้การใช้สัตว์ในการขนส่งสินค้าหมดไป วัวล้อ จึงถือว่าเป็นพาหนะในยุคแรก ๆ ที่ช่วยขยายเศรษฐกิจของเมืองเชียงใหม่ให้เจริญเติบโตดังเช่นปัจจุบัน
 
ที่มา : www.chiangmainews.co.th



 



**************************************************
บริการจัดทัวร์ 
ทัวร์เชียงตุง ทัวร์เมืองยอง ทัวร์สิบสองปันนา ทัวร์คุนหมิงจีน ทัวร์หลวงพระบาง ทัวร์วังเวียงลาว ทัวร์มัณฑเลย์ ทัวร์พุกาม ทัวร์ทะเลสาบอินเล ทัวร์ตองจี ทัวร์รัฐฉาน

บริษัท เชียงตุงเรียลเอสเตท แอนด์ ทราเวล จำกัด
เลขที่ใบอนุญาต 21/00833
โทร : 092-891-2277,093-2537733,053-727255
ไลน์ไอดี : @chiangtung
เว๊ปไซค์ : Chiangtungbiz.com
youtube:http://bit.ly/2HDFdMO
 

บทความที่คุณอาจสนใจ

เปิดประวัติเชียงตุง!! ยลโฉมเจ้าชายรูปงาม "เจ้าจายหลวง"

วัดหนองหลวงกำลังเจริญรุด การที่วัดมีรายได้จากเครื่องราง และสังฆะทรงเวทย์ จึงนำมาซึ่งรายได้ พอมีรายได้ก็สร้าง คณะศรัทธาสร้างและสังฆะปรารถนา เราหวั่นว่า ภาพเก่าภาพหลังจะเปลี่ยนไป นี่ก็กำลังเปลี่ยน ร้านขายสังฆภัณฑ์รกๆ ขยะเยอะๆ เริ่มก่อตัว เพราะว่าวัดนี้ คนขึ้นมาก ในบ้านเรา วัดไหนดัง วัดนั้นจะเยอะเป็นพิเศษ

ประวัติศาสตร์ว่ากันว่าวัดพันเตาสร้างขึ้นในสมัยเดียวกับวัดเจดีย์หลวงคือเมื่อราว 500 ปีมาแล้ว

บริษัท ไชยนารายณ์ โกลเบิ้ล จำกัด

66 หมู่1 ถนนโชคชัย4 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพ 10320

Tel ซื้อสินค้า : 063 5599 896

Tel ซื้อสินค้า : 092 891 2277

Tel ท่องเที่ยว :

Line ซื้อสินค้า : @chainarai

Line ท่องเที่ยว : @chainarai

Email : chainarai456@gmail.com

แผนที่

เพจ สิบสองปันนา หลวงพระบาง

เพจ เชียงตุง อยู่ดีกินหวาน